วันเสาร์, ธันวาคม 03, 2548

เยือนถิ่นชาละวัน

ผ่านเรื่องที่ซีเรียสมาแล้วก็มาเล่าเรื่องที่เบาๆ กันหน่อย เดือนก่อน (พ.ย.) ผมมีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด (พิจิตร) ซึ่งมีคำขวัญประจำจังหวัดว่า "ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน" ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ก็ไปเยี่ยมญาติน่ะครับ เป็นน้องของแม่ยาย แกไม่สบายป่วยเป็นมะเร็งที่ทรวงอก ออกเดินทางกันเช้ามืดวันที่ 19 ประมาณตีห้าครึ่งมีผม แม่ของเด็ก แล้วก็เด็กๆ ไปแวะรับ แม่ยายกับพี่ของแม่ยายอีกรวมเป็น 6 คนผู้ใหญ่ 4 เด็ก 2 ครั้งแรกที่ก็ไปเริ่มต้นที่อำเภอเถิน แล้วก็เดินทางจากอำเภอเถินเข้าสู่อำเภอทุ่งเสลี่ยมจังหวัดสุโขทัย ตามทางหลวงหมายเลข 1048 เมื่อยังอยู่ในเขตอำเภอเถิน เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างชำรุด แคบ เปลี่ยว และคดเคี้ยว ไม่เหมาะในการเดินทางในกลางคืน ต่อเมื่อเข้าสู่เขตอำเภอทุ่งเสลี่ยมแล้วค่อยดีขึ้น ก็มองเห็นสภาพชีวิตของชาวบ้านในฤดูเก็บเกี่ยว เริ่มเห็นรถอีแต๋นแล่นขนข้าว กันค่อนข้างหนาตา ถึงอำเภอสวรรคโลก ก็ใช้เส้นทางหมายเลข 101 ถึงอำเภอศรีสำโรงแวะกินข้าวเช้ากัน ช่วงตั้งแต่สวรรคโลกมาถึงศรีสำโรงก็เริ่มเห็นว่าการชลประทานที่นี่ดีมาก ปลูกข้าวนาปรังกันเขียวขจีเต็มทุ่งนาไปหมด จากศรีสำโรงไปสุโขทัยก็ใช้เวลาไม่นานมากนัก ผมเลือกใช้เส้นทางเลี่ยงเมือง เนื่องจากไม่อยากเข้าไปหลงทางในตัวเมืองสุโขทัย มุ่งสู่อำเภอกงไกรลาศด้วยทางหลวงหมายเลข 12 ยาวถึง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งบางช่วงก่อนที่เข้าตัวเมืองพิษณุโลกมีการปรับปรุง เพื่อขยายทำให้การเดินทางช้าลงไปพอสมควร ทีนี้ก็มุ่งหน้าไปจังหวัดพิจิตร ด้วยเส้นทางสายเลี่ยงเมืองอีกเช่นเคย โดยจุดหมายอยู่ที่ อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ตามทางหลวงหมายเลข 117 ผ่านมหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่านนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่าง แล้วก็เลี้ยวซ้ายเปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข 115 เข้าสู่อำเภอสามง่าม อำเภอเมืองจังหวัดพิจิตร จากวชิรบารมีถึงพิจิตร เนี่ยเห็นว่าปลูกข้าวนาปรังกันเป็นล่ำเป็นสัน บางแห่งก็เริ่มเก็บเกี่ยวด้วยรถเกี่ยวข้าว บางแห่งก็เริ่มหว่านเมล็ดกล้า บางแห่งต้นกล้าก็เริ่มโต มองดูเขียว ก็ถึงบ้านคลองคู้ อ.เมือง สิ้นสุดการเดินทางเมื่อเวลา 11 นาฬิการวมใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ค้างคืนซะคืนหนึ่ง รุ่งเช้าก็พาเด็กๆ ไปเที่ยวดูปลาที่บึงสีไฟ ก่อนเดินทางกลับ ซึ่งกว่าเด็กๆ จะยอมกลับเนื่องจากเพลินกับการให้อาหารปลาที่บึงก็ปาเข้าไปเที่ยงวันพอดี ขากลับผมไม่ได้กลับทางเดิมเนื่องจากรู้สึกว่ามันขับลำบาก อีกอย่างนึงก็คืออยากจะลองเดินทางอีกเส้นทางหนึ่ง คือจาก พิจิตร ตามทางหลวงหมายเลข 115 ผ่านสามง่าม วชิรบารมี เข้าสู่ จังหวัดกำแพงเพชร ช่วงนี้เป็นทางตรงยาวสุดลูกหูลูกตา รถราก็พอประมาณ ไม่ชุมมากนักอาจจะเป็นเพราะช่วงเที่ยง ก็เป็นได้ ทิวทัศน์ข้างๆ ทางก็เป็นนาปรัง สลับกับไร่อ้อย ให้เห็นเป็นระยะ บังเอิญฟังวิทยุอยู่ ดีเจเหมือนจะรู้ใจ เปิดเพลง ไร่อ้อยคอยรักของ หนู มิเตอร์ ก็ทำให้นึกภาพได้ชัดเจนมากขึ้น จากถนนหมายเลข 115 ก็มาบรรจบกับถนนพหลโยธิน (หมายเลข 1) ก็ใช้เส้นทางนี้ต่อจนถึงอำเภอเถิน แล้วก็แยกเข้าอำเภอลี้ด้วยเส้นทางหมายเลข 106 (พหลโยธินเดิม) จนถึงบ้านเวลา 5 โมงเย็น รวมระยะทางทั้งขาไปและขากลับก็ 687 ก.ม. หลังจากนั้นไม่กี่วันประมาณวันศุกร์ที่ 26 ก็ทราบข่าวว่าน้าแกเสียแล้ว การเดินทางครั้งที่สองก็เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 29 เพื่อไปร่วมฌาปนกิจศพ Trick นี้ผมเลือกใช้เส้นทางสาย เถิน ตาก กำแพงเพชร พิจิตร แทนทั้งขาไปและกลับ รู้สึกว่าขับได้สะดวกกว่าและเส้นทางไม่ซับซ้อนมากนัก พื้นผิวการจราจรก็ดีทีเดียว แต่ไปคราวนี้ไม่ได้ไปค้าง ไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งเริ่มที่ 8 โมงเช้าหลังจากที่ไปส่งเด็กๆ ที่โรงเรียนก่อน ตอนเย็นก็ฝากเด็กๆ ไว้กับ ปู่-ย่า ไปก่อน เพราะคิดว่าคงจะกลับถึงบ้านดึก ซึ่งก็กว่าจะทำพิธีก็ปาเข้าไปสามโมงเย็น แต่พิธีการค่อนข้างรวบรัดไม่เยิ่นเย้อเหมือนพิธีทางเหนือ ซึ่งเริ่มประมาณ บ่ายโมง แต่กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปสามสี่โมงเย็น ทางภาคกลางไม่นิยมจูงศพ ไปที่ป่าช้าเหมือนภาคเหนือ เนื่องจากที่วัดมักจะมีเมรุอยู่ในวัดเลยทำให้ลดเวลาลงไปได้เยอะ แต่ถึงกระนั้นกว่าจะได้เวลาเดินทางกลับก็ไปเข้าไป 17.30 น. ขากลับก็ไม่สามารถใช้ความเร็วมากนักเนื่องจากไม่ได้เอารถเก๋งที่ใช้ทุกวันไป เนื่องจากคิดว่าน่าจะเอารถกระบะไปจะดีกว่า ญาติพี่น้องจะได้ไปด้วยกันหลายๆ คน (แฟนผมเนี่ยญาติเยอะ) ผมก็รับหน้าที่โชเฟอร์ไปคนเดียว กว่าจะถึงบ้านก็ปาเข้าไปตั้ง 5 ทุ่มกว่าๆ เกือบเที่ยงคืน เนื่องจากเหยียบไม่ไหว บรรทุกหนัก ขากลับนี่ได้ส้มท่าข่อยมาหลายสิบลูก แค้นที่ไปครั้งก่อนหาซื้อไม่ได้ 5555 รสชาดก็สมกับคำขวัญของจังหวัดเค้าล่ะครับ หวาน ชุ่มคอดี ถ้ามีโอกาสไปอีกจะไปเหมาสวนเลยล่ะ ตั้งใจไว้อย่างนั้น หรือว่าจะเอาลำไยไปแลกเอา อิ อิ ระยะทางไป-กลับก็ 666 กิโลเมตร พอดิบพอดี



แสดงความคิดเห็น
Powered for by Blogger Templates free hit counter code
Copyright ? 2008-2009 Uthai Lueadnakrop. All Rights reserved